(( จำหน่ายจุลินทรีย์บําบัดน้ำเสีย )) ขายจุลินทรีย์ย่อยสลายและดับกลิ่นเหม็นประสิทธิภาพรวดเร็ว

จำหน่ายจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย เป็นจุลินทรีย์ชนิดพร้อมใช้งานทันที ซึ่งจุลินทรีย์ที่ถูกบรรจุทุกแกลลอนล้วนเป็นจุลินทรีย์สดใหม่ เป็นจุลินทรีย์ที่ยังมีชีวิตอยู่และดำรงอยู่ได้โดยไม่ต้องการออกซิเจนในการทำกระบวนการบำบัดน้ำเสียและย่อยสลายของเสีย เช่น กากไขมัน น้ำมัน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ก็าซไข่เน่า หรือทุกอย่างที่เกิดจากการเสื่อมสลายเน่าเสียจากธรรมชาติทั้งหมด เรียกอีกอย่าง คือ สารอินทรีย์วัตถุ
วิธีใช้จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียด้วยจุลินทรีย์หอมหอม อมรศรี จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย และการใช้จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย

การบำบัดน้ำเสียด้วยจุลินทรีย์ตรงประเด็นและต้นทุนต่ำกว่า
ยกระดับระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพสูงสุดได้แล้ววันนี้
ด้วยจุลินทรีย์หอมหอม อมรศรี ใช้ได้ทั้งการบำบัดน้ำเสีย และการกำจัดกลิ่น
        น้ำเสียสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกๆแหล่งที่มีน้ำล้วนต้องอาศัยจุลินทรีย์ในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสียในน้ำเสียนั้นรวมถึงการบำบัดน้ำเสียให้เป็นน้ำดีที่มีคุณภาพปกติล้วนต้องอาศัยจุลินทรีย์ทั้งหมด น้ำเสียมาจากที่ไหน?  น้ำเสียเกิดขึ้นได้จากอะไร? เกิดได้ 2 สาเหตุด้วยกัน คือ น้ำเสียที่เกิดขึ้นตามเองในธรรมชาติ และ น้ำเสียที่เกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์เป็นผู้กระทำขึ้น ซึ่งน้ำเสียส่วนใหญ่มาจากการกระทำของมนุษย์ โดยเฉพาะกิจกรรมหรือธุรกิจที่ส่งผลเสียทำให้เกิดน้ำเสียเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีความจำเป็นต้องบำบัดน้ำเสียเหล่านี้ให้กับกลายมาเป็นน้ำดีที่มีคุณภาพปกติก่อนนำปล่อยทิ้งออกสู่สิ่งแวดล้อมสาธารณะต่อไป

        น้ำดีที่มีคุณภาพต้องมีค่า DO ( Dissolved Oxygen ) หรือค่าออกซิเจนละลายอยู่ในน้ำมากกว่า 3 ขึ้นไป น้ำเสียจะมีค่า DO
น้อย หรือค่าออกซิเจนที่ละลายอยู่ในน้ำเสียนั้นมีน้อยมากหรือแทบจะไม่มีเลย ดังนั้น จึงส่งผลให้ในน้ำเสียนั้นไม่มีจุลินทรีย์ย่อยสลายหรือแทบไม่มีเลย จึงทำให้น้ำเสียถึงระดับอันตรายมากๆ นั่นเอง และส่งผลต่อกลุ่มจุลินทรีย์ย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียที่ใช้ออกซิเจนในน้ำทำปฏิกิริยาเป็นหลัก วิธีแก้ไขปัญหานี้จำเป็นต้องเติมอากาศออกซิเจนลงไปผสมในน้ำเสียนั้นๆด้วย เพื่อเพิ่มค่า DO ในน้ำเสียให้มีมากขึ้นและเพียงพอกับจุลินทรีย์ที่จะนำไปใช้ทำปฏิกิริยาบำบัดน้ำเสียและย่อยสลายของเสีย  แต่เมื่อค่าออกซิเจนที่ละลายอยู่ในน้ำเสียยังมีค่า DO น้อย หรือไม่เพียงพอกับปริมาณของกลุ่มจุลินทรีย์น้ำเสียเองนั้นก็จะถูกบำบัดได้ในระดับเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่น้ำเสียยังคงไม่เป็นน้ำดีที่มีคุณภาพปกติได้ เพราะปริมาณของกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนมีน้อยกว่าปริมาณน้ำเสียที่เกิดขึ้น แต่ก็มีวิธีการแก้ไขได้อยู่อีกหนึ่งวิธี คือการเติมหรือเพิ่มปริมาณกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติในการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียโดยไม่ใช้ออกซิเจนในการทำปฏิกิริยาโดยตรง ( กลุ่มจุลินทรีย์อีเอ็ม ) ซึ่งสามารถทำได้ง่ายกว่าการเพิ่มกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนเป็นหลัก กลุ่มจุลินทรีย์อีเอ็มสามารถสังเคราะห์ขึ้นได้ง่าย สามารถ เพิ่มความเข้มข้นและเพิ่มปริมาณความหนาแน่นของจุลินทรีย์เองได้ง่ายๆ และที่สำคัญสามารถทำงานร่วมกับกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนเป็นหลักได้ทุกที่ ดังนั้น ไม่ว่าจะน้ำเสียนั้นๆจะมีออกซิเจนละลายอยู่ในน้ำมากน้อยเพียงใดหรือไม่มีออกซิเจนละลายอยู่ในน้ำเสียนั้นเลยก็ตาม แต่กลุ่มจุลินทรีย์อีเอ็มก็สามารถทำงานหรือทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียได้ทันที  ปริมาณน้ำเสียมากหรืออยู่ในระดับอันตราย ก็สามารถใช้ปริมาณของจุลินทรีย์อีเอ็มมากตามไปด้วย การใช้จุลินทรีย์ในแต่ละครั้งจะแปรผันตรงกับปริมาณของเสีย  สามารถนำกลุ่มจุลินทรีย์อีเอ็มไปปรับค่า pH ได้ในกรณีที่น้ำเสียนั้นมีความเป็นด่างหรือเป็นเบส ยังสามารถใช้จุลินทรีย์อีเอ็มปรับค่าน้ำได้ทันที แต่ถ้าน้ำเสียนั้นมีค่าเป็นกรดให้ใช้ปูนขาวปรับค่า pH เพื่อปรับค่าให้เข้าใกล้ เลขเจ็ด

        ร้านไบโอ-ดี เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย ขายจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย ขายจุลินทรีย์ดับกลิ่น จำหน่ายจุลินทรีย์กำจัดกลิ่นห้องน้ำ จุลินทรีย์เติมบ่อบำบัดน้ำเสีย จุลินทรีย์ดับกลิ่นเหม็นบ่อบำบัดน้ำเสีย จุลินทรีย์เติมบ่อเกรอะ จุลินทรีย์ดับกลิ่นบ่อเกรอะเหม็น จุลินทรีย์ดับกลิ่นห้องน้ำเหม็น เป็นจุลินทรีย์กลุ่มไม่ใช้ออกซิเจนไม่ใช้อากาศมีความทนทานสูง เห็นผลชัดเจน 100%

        จุลินทรีย์หอมหอม อมรศรี มีกลิ่นหอมสดชื่นซึ่งไม่เหมือนกลิ่นจุลินทรีย์อีเอ็มทั่วๆไปที่ขายในท้องตลาดที่มีกลิ่นฉุนอมเปรี้ยวๆ ผู้ใช้จึงได้ประโยชน์ทั้งการบำบัดน้ำเสียได้ก็ดี และการดับกลิ่นหรือกำจัดกลิ่นเหม็นในบ่อบำบัดน้ำเสียได้ก็ดี กลิ่นหอมทันทีที่เริ่มใช้ในบ่อบำบัดน้ำเสียของท่าน ทันที 100%

        จุลินทรีย์หอมหอม อมรศรี คือการรวมกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพและมีประโยชน์หลายด้าน โดยเฉพาะการบำบัดน้ำเสียและการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ จุลินทรีย์หอมหอม อมรศรี สามารถใช้กับระบบบำบัดน้ำเสียได้ทุกระบบ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบบำบัดน้ำเสียดีขึ้น เป็นการเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์เข้าไปในระบบเพื่อย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะลำพังกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้อากาศออกซิเจนในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียอาจไม่เพียงพอ เพราะปริมาณน้ำเสียและของเสียในน้ำเสียมีปริมาณมากกว่ากลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนจึงทำการย่อยสลายและบำบัดน้ำเสียได้ทั้งหมด ทางออกที่ดีควรแก้ไขปัญหาโดยต้องพึ่งพาอาศัยกลุ่มจุลินทรีย์ที่ไม่ใช้ออกซิเจนในการทำปฏิกิริยา ย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสีย ก็คือกลุ่มจุลิทรีย์อีเอ็ม ซึ่งมีคุณสมบัติและทำหน้าที่คล้ายกับกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติ ในสภาวะเกิดปัญหาน้ำเสียถึงขั้นอันตรายหนัก ในน้ำเสียมีจุลินทรีย์น้อยหรือแทบไม่มีเลย ( เพราะว่าออกซิเจนในน้ำเสียเหลืออยู่น้อยมากหรือแทบจะไม่มีออกซิเจนหลงเหลืออยู่ ) กลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนจำเป็นต้องอาศัยอากาศออกซิเจนที่ละลายอยู่ในน้ำเสียในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสีย ถ้าไม่มีออกซิเจนละลายอยู่ในน้ำเสีย กลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนก็จะไม่มีในน้ำเสียหรือมีแต่ในปริมาณน้อยมาก ซึ่งทำให้น้ำกลับกลายเป็นยิ่งเน่าเสียมากขึ้น ในระบบบำบัดน้ำเสียทุกระบบ จุดประสงค์ทุกระบบเหมือนกันคือต้องการดึงกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนมาทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียในระบบ ดังนั้น จำเป็นต้องมีการช่วยเติมอากาศออกซิเจนเข้าไปในระบบให้เพียงพอ  แต่ส่วนมากในระบบจะได้อากาศออกซิเจนเติมเข้าไปในระบบน้ำเสียในปริมาณไม่เพียงพอต่อการเพิ่มปริมาณกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนในน้ำเสีย จึงส่งผลทำให้ระบบบำบัดน้ำเสียนั้นยังด้อยประสิทธิภาพอยู่ กลุ่มจุลินทรีย์ย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียมีน้อยกว่าปริมาณของเสียและน้ำเสียที่เกิดขึ้นจริง ทางออกที่ดีควรมาลงตัวที่กลุ่มจุลินทรีย์อีเอ็ม ( ที่ไม่ใช้และไม่ต้องการออกซิเจนในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียนั้นเอง ) คือกลุ่มจุลินทรีย์แอนแอร์โรบิคที่มีประโยชน์และมีประสิทธิภาพในการย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสีย ( ทำหน้าที่ได้เหมือนกันกับกลุ่มจุลินทรีย์ต้องการออกซิเจน ) สามารถสังเคราะห์ขึ้นได้ตามความต้องการ ความหนาแน่นของปริมาณจุลินทรีย์มีมากกว่า สามารถทำปฏิกิริยาบำบัดน้ำเสียย่อยสลายของเสียในน้ำเสียได้ทันที เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบบำบัดน้ำเสียและเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดปริมาณน้ำเสียและของเสียในระบบบำบัดน้ำเสียได้ในทุกระบบ โดยเฉพาะระบบบำบัดน้ำเสียแบบง่ายๆชนิดเติมอากาศ ส่วนใหญ่จะมีปริมาณจุลินทรีย์ในระบบมีจำนวนน้อย

        จุลินทรีย์หอมหอม อมรศรี ผลิตขึ้นเพื่อขจัดปัญหาและแก้ไขปัญหาดังที่กล่าวเกริ่นนำ เราได้สังเคราะห์ขึ้นมาจากหัวเชื้อของจุลินทรีย์รูปแบบที่ไม่ต้องการอากาศแบบต้นฉบับโดยตรง และเป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีคุณประโยชน์หลายๆด้าน จึงมีประสิทธิภาพใช้ย่อยสลายของเสียและใช้บำบัดน้ำเสีย รวมไปถึงการดับกลิ่นหรือกำจัดกลิ่นเน่าเหม็นจากสารอินทรีย์ต่างๆ สามารถทำงานร่วมกันกับจุลินทรีย์ชนิดต้องการออกซิเจนได้เป็นอย่างดี รูปแบบการทำหน้าที่คล้ายๆกัน ดังนั้น จึงสามารถนำมาใช้ทดแทนกันได้ ในสภาวะที่ในน้ำเสียไม่มีออกซิเจนละลายอยู่ในน้ำเสียเลยนั้น จุลินทรีย์ที่ต้องการออกซิเจนจะไม่สามารถทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียได้ ดังนั้น ควรต้องหันไปใช้กลุ่มจุลินทรีย์อีเอ็มที่ไม่ต้องการออกซิเจนในน้ำเสียในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสีย และนี่คือวิธีการแก้ไขปัญหาในน้ำเสียไม่มีออกซิเจนละลายอยู่ ( ค่า ดีโอ ( DO ) ต่ำหรือแทบไม่มี ) จุลินทรีย์อีเอ็มสามารถสังเคราะห์ขึ้นได้ง่ายกว่าจุลินทรีย์ชนิดที่ใช้ออกซิเจนในการทำปฏิกิริยา ต้นทุนต่ำกว่าและง่ายกว่า ดังนั้น จึงเป็นทางเลือกในการ รัน และ รีบูช ระบบบำบัดน้ำเสียของท่าน ไม่ว่าระบบจะมีขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ สามารถทำได้ทั้งนั้นในทุกๆระบบ ซึ่งเป็นผลดีต่อระบบโดยตรง ในกรณีที่ระบบบำบัดน้ำเสียชนิด AS หรือ RBC ล่มหรือเสียรอการบำรุงรักษา ก็สามารถนำจุลินทรีย์หอมหอม อมรศรี ไปใช้แทนได้ระหว่างรอซ่อมแซมและ รันระบบใหม่อีกครั้ง โดยไม่ต้องรอการซ่อมแซมเสร็จสมบูรณ์ก่อน เพราะของเสียและน้ำเสียเกิดขึ้นได้ในทุกๆวัน น้ำเสียที่เกิดขึ้นไม่สามารถรอระบบให้เสร็จก่อนได้ ต้องทำการบำบัดทันทีก่อนที่จะปล่อยทิ้งออกสู่สิ่งแวดล้อมต่อไป จุลินทรีย์หอมหอม อมรศรี สามารถใช้ได้ดีกับระบบบำบัดน้ำเสียทุกระบบ
รูปแบบของระบบบำบัดน้ำเสีย ทั้ง 6 ระบบ
๑.ระบบบำบัดน้ำเสียรูปแบบบึงประดิษฐ์ (Constructed Wetland)
๒.ระบบบำบัดน้ำเสียรูปแบบคลองวนเวียน (Oxidation Ditch)
๓.ระบบบำบัดน้ำเสียรูปแบบแอคทิเวทเต็ดสลัดจ์ (Activated Sludge : AS )
๔.ระบบบำบัดน้ำเสียรูปแบบบ่อเติมอากาศ (Aerated Lagoon หรือ AL)
๕.ระบบบำบัดน้ำเสียรูปแบบแผ่นจานหมุนชีวภาพ (Rotating Biological Contactor ; RBC)
๖.ระบบบำบัดน้ำเสียรูปแบบบ่อปรับเสถียร (Stabilization Pond)
รูปแบบระบบที่ ๓ กับรูปแบบระบบที่ ๕ เป็นการลงทุนที่สูงและมีค่าใช้จ่ายรายเดือนค่อนข้างสูง เหมาะกับสำหรับโรงพยาบาล โรงงาน หรือชุมชุนขนาดใหญ่ที่มีน้ำเสียในปริมาณมาก ส่วนรูปแบบระบบอื่นๆเป็นการลงทุนไม่มากนัก แต่ก็อาจใช้พื้นที่มากในบางรูปแบบระบบ แต่ระบบลากูน (lagoon) รูปแบบกลางแจ้งจะใช้พื้นที่มาก ในทุกระบบที่กล่าวมาล้วนต้องการอากาศหรือออกซิเจนเข้าไปทำปฏิกิริยาในระบบ เพราะจุลินทรีย์ที่ใช้ในระบบเป็นแบบใช้ออกซิเจนใช้อากาศในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสีย ทั้งนี้ทั้งนั้นน้ำก็ยังต้องการออกซิเจนเพื่อให้เป็นน้ำดีมีคุณภาพ เพราะถ้าค่าออกซิเจนในน้ำต่ำกว่า 3 ( ค่า ดีโอ < 3 ) จะเป็นน้ำเสียถึงลักษณะน้ำจะมองดูใสก็ตาม ยังถือว่าเป็นน้ำเสียอยู่ ดังนั้น อากาศหรือออกซิเจนในน้ำจึงมีความสำคัญมาก น้ำดีหรือน้ำเสียจึงดูค่า ดี (DO) เป็นหลัก ส่วนค่าพารามิเตอร์ตัวอื่นๆเป็นส่วนประกอบที่สำคัญไล่ตามกันมา ณ ปัจจุบันของเสียและน้ำเสียในบางหน่วยงานจะค่อนข้างอันตราย เพราะของเสียมีมากขึ้น น้ำเสียมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งทำให้ระบบย่อยสลายและระบบบำบัดน้ำเสียไม่ทันท่วงที จึงเกิดปัญหาเน่าเหม็นส่งกลิ่นเหม็นตามมา ซึ่งทำให้รู้ว่าระบบนั้นมีปัญหาในเรื่องของปริมาณจุลินทรีย์ในระบบบำบัดนั้นมีปริมาณน้อยกว่าของเสียและน้ำเสียที่เกิดขึ้นจริง ทางออกที่ถูกทางก็คือการเติมหรือเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์เข้าไปในระบบให้เพียงพอหรือมากกว่าปริมาณของเสียและน้ำเสีย การเติมหรือเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนในการทำปฏิกิริยาจะใช้เวลานานและทำได้ค่อนข้างยาก ยกเว้นรูปแบบระบบ RBC และ AS สามารถทำได้เองในระบบบำบัด  แต่ก็อย่างว่าถ้าสองระบบนี้เกิดชำรุดหรือเสียหายขึ้น ก็จะไม่มีจุลินทรีย์อยู่ในระบบบำบัดหรือมีในปริมาณที่น้อยกว่าของเสียและน้ำเสีย ซึ่งสิ่งที่ได้รับผลกระทบตามมาก็คือ น้ำเสียเริ่มส่งกลิ่นเน่าเหม็นมากขึ้น แก้ปัญหาอย่างไร? คือ ทางออกที่ดีของปัญหาเหล่านี้นั้นก็คือ การเติมจุลินทรีย์หรือการเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์กลุ่มไม่ต้องการอากาศหรือไม่ใช้ออกซิเจนในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสีย ( จุลินทรีย์อีเอ็ม ) เข้าในระบบให้มากๆหรือเพียงพอต่อปริมาณของเสียและน้ำเสียที่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากกลุ่มจุลินทรีย์อีเอ็ม EM จะไม่ใช้ออกซิเจนไม่ใช้อากาศในน้ำมาทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสียและบำบัดน้ำเสียเหมือนกับกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจน กลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจนหรืออากาศในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายต้องอาศัยอากาศหรือออกซิเจนที่ละลายอยู่ในน้ำเสียนั้นทุกครั้งตลอดเวลา  แต่ถ้าน้ำเสียนั้นเกิดมีอากาศหรือออกซิเจนละลายอยู่น้อยมากหรือแทบไม่มีเลยนั้นคือเข้าขั้น อันตรายมากๆ ปัญหาเหล่านี้ก็จะตามมาก็คือ กลุ่มจุลินทรีย์ที่ไม่ต้องการออกซิเจนจะไม่สามารถทำปฏิกิริยาการย่อยสลายของเสียในน้ำนั้นได้  แต่ขณะเดียวกันกลุ่มจุลินทรีย์ที่ไม่ใช้ออกซิเจน ( คือ กลุ่มจุลินทรีย์อีเอ็ม ) สามารถเข้าไปทําปฏิกิริยาย่อยสลายของเสียนั้นๆและบำบัดน้ำเสียนั้นๆได้ทันที  ออกซิเจนหรืออากาศไม่มีความเป็นที่ต้องการกับกลุ่มจุลินทรีย์อีเอ็ม ดังนั้นน้ำเสียที่อยู่ในระดับอันตราย ( อากาศหรือออกซิเจนที่ละลายอยู่ในน้ำเสียนั้นมีปริมาณน้อยหรือแทบจะไม่มี ) กลุ่มจุลินทรีย์อีเอ็มจึงสามารถทําปฏิกิริยาทดแทนย่อยสลายของเสียต่างๆและบำบัดน้ำเสียต่างๆได้ทันที ประสิทธิภาพไม่ค่อยมีความแตกต่างกันกับจุลินทรีย์กลุ่มที่ใช้ออกซิเจน  และเป็นทางออกที่ดีมากในปัจจุบันที่จะนำจุลินทรีย์อีเอ็มมาเพิ่มประสิทธิภาพการย่อยสลายในระบบบำบัดน้ำเสียในทุกๆรูปแบบระบบที่กล่าวมา ซึ่งจะทำให้ระบบบำบัดน้ำเสียและระบบการย่อยสลายของเสียต่างๆนั้นมีประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น

        จุลินทรีย์หอมหอม อมรศรี คือกลุ่มจุลินทรีย์สารพัดประโยชน์สามารถใช้ประโยชน์ได้หลายวิธีใช้ เราเป็นผู้ผลิตและได้สังเคราะห์ขึ้นมาจากหัวเชื้อของจุลินทรีย์ต้นฉบับโดยตรง ไม่ใช้การหมักแบบทั่วไป จุลินทรีย์หอมหอม อมรศรี เป็นจุลินทรีย์มีความเข้มข้นสูงและมีความหนาแน่นของจุลินทรีย์สูง สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้หลายๆด้านด้วยกัน ทั้งการบำบัดน้ำเสียก็ดีหรือใช้กำจัดกลิ่นเหม็นก็ดี รวมถึงประยุกต์ไปใช้เป็นปุ๋ยสูตรต่างๆได้ในทางการเกษตรก็สามารถทำได้ เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่ไม่ดึงไม่ดูดไม่ใช้ออกซิเจนในน้ำมาใช้ในการทำปฏิกิริยาย่อยสลายของเสีย

คุณสมบัติของจุลินทรีย์หอมหอม อมรศรี
- ใช้บำบัดน้ำเสียให้กับกลายเป็นน้ำดีได้
- ใช้ย่อยสลายวัตถุสารอินทรีย์ให้มีขนาดโมเลกุลที่เล็กลง
- ใช้ย่อยสลาย ไขมันและน้ำมันจากพืชและจากสัตว์
- ใช้ขจัดกลิ่นเหม็นและดับกลิ่นเหม็นหรือกำจัดกลิ่นที่ไม่พึงปรารถนาต่างๆนาๆ กลิ่นเน่าเหม็นจากสารอินทรีย์ทุกชนิด
จุลินทรีย์หอมหอม อมรศรี ( จุลินทรีย์หอมหอม อมรศรี Amornsri ) ประกอบด้วยกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์หลากหลายกลุ่ม
กระบวนการสังเคราะห์กลุ่มจุลินทรีย์หอมหอม อมรศรี เป็นการรวบรวมกลุ่มจุลินทรีย์ที่ใช้ประโยชน์ได้และมีประสิทธิภาพรวบรวมอยู่ในที่เดียวกัน มีจุลินทรีย์รวมกันอยู่ ๕ แฟมิลี่ ๑๐ จีนัส ๘๐ สปีชีส์ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้ในหลายๆรูปแบบจะถูกแบ่งออก เป็น ๕ กลุ่มด้วยกันมี ดังนี้
๑.กลุ่มจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ( Photosynthetic bacteria )
๒.กลุ่มจุลินทรีย์ผลิตกรดแลคติก ( Lactic acid bacteria )
๓. กลุ่มจุลินทรีย์ตรึงไนโตเจน ( Nitrogen fixing bacteria )
๔. กลุ่มจุลินทรีย์แอคติโนมัยซีท ( Actenomycetes )
๕. กลุ่มจุลินทรีย์ยีสต์ ( Yeasts )
        การใช้บำบัดน้ำเสียสามารถใช้ได้หลายวิธีด้วยกัน ซึ่งการใช้บำบัดน้ำเสียนั้น จะต้องสร้างระบบกระบวนการบำบัดน้ำเสียขึ้นมารองรับหรือที่เรียกกันว่าระบบบำบัดน้ำเสียนั่นเอง ในต่างประเทศหรือบางประเทศที่เจริญแล้วมีกฎหมายคุ้มครองการกำจัดน้ำเสียตั้งแต่หน่วยงานเล็กๆไปถึงหน่วยงานใหญ่ๆ ทั้งของรัฐบาลและเอกชนจนกระทั่งไปถึงทุกครอบครัวต้องมีระบบบำบัดน้ำเสีย และระบบบำบัดน้ำเสียของแต่ละรายก็อาจแตกต่างกันออกไป ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ต้องใช้ระบบบำบัดน้ำเสียขนาดตามความเหมาะสมตามขนาดของปริมาณน้ำเสีย ส่วนระบบน้ำเสียในระดับครัวเรือนอาจมีขนาดเล็กลง ทุกครัวเรือนต้องบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยออกสู่แม่น้ำลําธารสาธารณะหรือสิ่งแวดล้อม ณ ปัจจุบันประเทศเรายังไม่มีการใช้กฎหมายบังคับถึงระดับนั้น ดังนั้นทุกครัวเรือนจะปล่อยน้ำเสียออกสู่สาธารณะทุกวันอย่างที่เห็น ซึ่งมีผลทำให้ลำคลองหลายที่น้ำเน่าเสียอย่างมาก ต้องออกมาช่วยรณรงค์กันเพื่อให้ทุกคนรู้จักการบำบัดน้ำเสียในบ้านของตัวเองมากขึ้น  เป็นหนึ่งในวิธีการบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีง่ายๆซึ่งถือว่าเป็นวิธีการบำบัดน้ำเสียที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด นั่นก็คือวิธีการใช้จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย และในการใช้จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียก็สามารถใช้ได้ในทุกๆหน่วยงานทุกๆองค์กรตั้งแต่หน่วยงานขนาดเล็กไปถึงหน่วยงานขนาดใหญ่หรือไปถึงบ้านที่อยู่อาศัยทั่วไป ซึ่งขั้นตอนทำการบำบัดน้ำเสียด้วยจุลินทรีย์จะทำได้เร็วและทำได้ง่ายกว่าวิธีอื่นๆ การลงทุนที่ถูกที่สุดที่สำคัญ คือไม่มีอันตรายไม่สร้างมลภาวะให้กับสิ่งแวดล้อม แต่มีผลดีที่ตามมามากมายของการบำบัดน้ำเสียด้วยจุลินทรีย์นี้ก็คือทำให้คุณภาพน้ำโดยรวมดีขึ้น ปริมาณน้ำเสียต่างๆและมลพิษต่างๆน้อยลงและลดลงอย่างเห็นได้ชัดแน่นอน

วิธีการบำบัดน้ำเสีย / การบำบัดน้ำเน่าเสียในโรงงาน ?
        ณ ปัจจุบันโรงงานตั้งแต่ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่จะมีปริมาณน้ำเสียหรือน้ำเน่าเสียเป็นจำนวนมาก บางที่จะมีน้ำเน่าเสียออกสู่สิ่งแวดล้อมตลอดเวลา ซึ่งน้ำเสียดังกล่าวเกิดจากกิจกรรมภายในโรงงาน น้ำเสียที่มาจากโรงงานส่วนมากมาจาก 2 รูปแบบ รูปแบบแรกคือ ส้วมหรือห้องน้ำ โรงงานที่มีจำนวนพนักงานเป็นมากแค่ไหนก็ยิ่งมีปริมาณน้ำเสียในที่นั้นมาก รูปแบบที่สองคือจากผลิตสินค้าของโรงงานซึ่งจะมีมากหรือมีน้อยก็ตามปริมาณของเนื้องาน แล้วโรงงานส่วนมากจะไม่ค่อยแยกน้ำเสียที่มาจากทั้งสองรูปแบบนี้ ซึ่งจะทำให้มีผลกระทบให้กับการบำบัดน้ำเสียทำได้ยากมากขึ้นโดยเฉพาะการใช้เครื่องจักรกลบำบัดน้ำเสียเครื่องจักรต้องแยกน้ำเสียออกจากกัน  แต่วิธีการบำบัดน้ำเสียด้วยจุลินทรีย์หอมหอม อมรศรีในโรงงานสามารถทำได้ทันที ยกเว้นกรณีที่มีน้ำเสียปะปนกับสารเคมีที่มีอันตรายต่อจุลินทรีย์  วิธีการบำบัดน้ำเสียด้วยจุลินทรีย์มีดีตรงใช้งานง่ายและทำได้ดีกว่าวิธีอื่นๆ เซฟค่าใช้จ่ายและทำได้ง่ายไม่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญก็สามารถดูแลได้ง่ายซึ่งต่างจากวิธีอื่นอย่างมาก

การใช้จุลินทรีย์อีเอ็มบำบัดน้ำเสียในโรงงานทั่วไป ?
        ผู้ใช้งานต้องมีความเข้าใจในการบำบัดก่อน การบำบัดน้ำเสียจึงจะมีประสิทธิภาพและได้ผลดี ต้องรู้ต้องเข้าใจถึงข้อมูลของน้ำเสียก่อนว่ามาจากที่ใดและแหล่งใดบ้าง ยกตัวอย่าง จากโรงงานสายการผลิต จากห้องน้ำ จากโรงอาหารหรือที่อื่นๆ ถ้าตรวจเช็คค่าพื้นฐานของน้ำเสียได้ยิ่งดีมาก เช่น ค่า BOD / COD / DO / pH เป็นต้น หลังจากนั้นก็ทำการทดสอบน้ำเสียกับจุลินทรีย์อีเอ็ม นำน้ำเสียมา ๑๐๐ ซีซี. บรรจุลงในฟาส หรือบิ๊กเกอร์ก็ได้ ให้เติมจุลินทรีย์ลงไปประมาณ ๑๐ ซีซี. ให้ทิ้งไว้ในอุณหภูมิปกติระยะเวลาประมาณ ๒๔ ชั่วโมง หลังจากนั้นให้ตรวจเช็คค่า BOD / COD / DO / pH อีกรอบ ถ้าได้ค่ามาตรฐานแล้วก็ใช้อัตราส่วนตามที่ได้ทดลองได้เลยในการบำบัดน้ำเสีย อัตราส่วนดังกล่าวอาจใช้ไม่ไดกับโรงงานอื่นๆ เหตุเพราะค่าน้ำเน่าเสียมีจำนวนมากน้อยไม่เท่ากันวิธีการบำบัดน้ำเสียตามบ้านเรือนทั่วไป ?
        วิธีการบำบัดน้ำเสียตามบ้านเรือนทั่วไป ณ ปัจจุบันส่วนมากยังไม่มีระบบบำบัดน้ำเสียกัน แต่มีส่วนน้อยที่ใช้ระบบบำบัดน้ำเสียสามารถหาซื้อกันได้ห้างร้านหรือตามท้องตลาดประเภทถังบำบัดน้ำเสีย ซึ่งอาจจะไม่ได้ผลเต็มร้อยหรือเท่าที่ควรและอาจเสื่อมคุณภาพในการบำบัดน้ำเสียได้ง่าย เพราะส่วนมากจะติดตั้งแล้วก็ไม่มีการดูแลรักษาอย่างถูกวิธีถือว่าติดตั้งครั้งเดียวก็จบๆเพียงเท่านั้น ในความเป็นจริงต้องดูแลและตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง การบำบัดน้ำเสียในบ้านที่ง่ายที่สุดคือการใช้จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย ซึ่งสมาชิกในบ้านทุกคนสามารถทำได้ทันทีไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในการบำบัดน้ำเสียก็สามารถทำได้ทันที
วิธีการใช้จุลินทรีย์ดับกลิ่น / จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย ควรเริ่มใช้อย่างไรกันจึงจะถูกต้องและสมบูรณ์แบบ ?
        วิธีการใช้จุลินทรีย์ดับกลิ่น สามารถใช้ดับกลิ่นหรือใช้บำบัดน้ำเสีย ใช้เป็นปุ๋ยน้ำชีวภาพก็ยังได้ ผู้ใช้เองควรใช้อย่างต่อเนื่องติดต่อกัน ปกติส่วนมากจะเข้าใจกันว่าใช้จุลินทรีย์ครั้งแรกก็เพียงพอแล้ว การดับกลิ่นครั้งแรกใช้ดับกลิ่นครั้งแรกกลิ่นก็หายไม่ต้องใช้ต่อไปอีกเพราะกลิ่นหายหมดแล้ว  นั้นก็เป็นจริงแต่เป็นการเข้าใจกันผิดๆของผู้ใช้จุลินทรีย์ ที่ถูกต้องก็คือ ต้องใช้จุลินทรีย์ต่อเนื่องเรื่อยๆ ยกตัวอย่าง เช่น ใช้จุลินทรีย์ดับกลิ่นส้วมหรือเติมบ่อเกรอะ ในความเป็นจริงสิ่งปฏิกูลในส้วมหรือบ่อเกรอะในบ้านเราเพิ่มปริมาณขึ้นทุกๆวัน ดังนั้นจึงมีสิ่งปฏิกูลและสิ่งสกปรกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆมากขึ้นทุกๆวัน เช่นกันซึ่งการใช้เพียงครั้งแรกแล้วไม่ใช้อีกเลยทั้งที่มีสิ่งปฏิกูลเกิดขึ้นและเพิ่มปริมาณมากขึ้นในทุกๆวัน เป็นความเข้าใจผิด เพราะจุลินทรีย์จะเข้าไปทำปฏิกิริยาย่อยสลายกับสิ่งปฏิกูลเหล่านั้นและค่อยๆสลายไปในที่สุดตามระยะเวลาของเค้าเอง ไม่สามารถคงอยู่ทำปฏิกิริยาย่อยสลายได้ตลอดกาลจำเป็นต้องหมั่นเติมจุลินทรีย์เพิ่มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะเติมอาทิตย์ละครั้ง ขึ้นอยู่กับปริมาณของสิ่งปฏิกูลที่เกิดขึ้นมากน้อยเพียงใด การเติมจุลินทรีย์ลงในชักโครก/โถฉี่/ส้วมหรือบ่อเกรอะควรใช้แบบใหม่และใช้แบบไม่ผสมน้ำ ซึ่งจะดับกลิ่นได้อย่างเร็วทันใจ  จุลินทรีย์ที่ดับกลิ่นไม่ค่อยมีประสิทธิภาพส่วนมากจะเป็นประเภทค้างสต๊อกหรือมีความเจือจางเข้มข้นต่ำ
        วิธีการใช้จุลินทรีย์ดับกลิ่นจึงควรใช้ตามคำแนะนำ ไม่จำเป็นต้องใช้อย่างประหยัดหรือใช้น้อยเกินไป ซึ่งจะนำมาซึ่งไม่ได้ผลตามที่ต้องการ  สามารถใช้แบบเข้มข้นหรือใช้มากได้ตามความต้องการไม่มีอันตรายอะไร และใช้ตามระยะเวลาที่กำหนด  ไม่ใช่ใช้ครั้งละ ๑ เดือนหรือ ๖ เดือนครั้ง  ปัญหาเกิดขึ้นทุกๆวัน เช่น มีสิ่งปฏิกูลเกิดขึ้นทุกวัน  สุนัขฉี่หรือถ่ายมูลทุกวัน ฯลฯ ดังนั้น จึงควรใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายไม่ควรทิ้งระยะเวลาห่างมากเกินไป ถ้ารู้สึกเริ่มส่งกลิ่นมีกลิ่นแล้วให้ใช้ได้ทันที หรือถ้าใช้ได้ทุกวันจะดีมากๆ เพราะสิ่งสกปรกถูกบำบัดและย่อยสลายทุกวัน กลิ่นเหม็นก็จะไม่มี ทำให้สภาพสิ่งแวดล้อมโดยรวมดีขึ้น สุขภาพจิตดีขึ้นตามมา มีหลายท่านที่ต้องการนำไปtestใช้ก่อน ซึ่งถ้าใช้ถูกวิธีจะได้ผลดี แต่ถ้าใช้ไม่ถูกวิธีก็จะไม่ได้ผลเท่าที่ควร จุลินทรีย์ดับกลิ่นได้ผ่านกระบวนการทดลองทางด้านวิชาการต่างๆ ผ่านสถาบันชั้นนำทั้งในและต่างประเทศมาทั่วโลก จุดเด่นของจุลินทรีย์ดับกลิ่น คือไม่มีสารเคมีเจือปนหรือผสมอยู่ จึงมีความปลอดภัยสูง สามารถประยุกต์ใช้ประโยชน์ได้เยอะ
กระบวนการและขั้นตอนการบำบัดน้ำเสียด้วยการใช้จุลินทรีย์ชีวภาพ ( อีเอ็ม EM)
        การย่อยสลายสารอินทรีย์ต่างๆมากมาย ซึ่งเป็นต้นต่อที่ทำให้เกิดน้ำเน่าเสีย ทั้งนี้จุลินทรีย์แต่ละชนิดสามารถย่อยสลายสารอินทรีย์ได้ต่างกัน ยกตัวอย่าง เช่น ไขมัน โปรตีน ฯลฯ องค์ประกอบหลักสำคัญที่จุลินทรีย์ต้องการใช้ในการย่อยสลายสารอินทรีย์คือก๊าซอ๊อกซิเจน ( Oxygen (O2) ) กระบวนการบำบัดน้ำเสียด้วยจุลินทรีย์จะได้ O2 จากอากาศ 3 ทาง ได้แก่
๑.เทอร์โมซิฟอน ( Thermosiphon ) หรือการเคลื่อนที่ลงสู่ที่ต่ำของน้ำที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า ซึ่งจะนำ O2 ลงสู่ที่ต่ำด้วย
๒.โฟโทซีนธีสซิ ( Photosynthesis ) หรือการสังเคราะห์แสงของพืชและจุลินทรีย์พืชสีเขียวเพื่อผลิตอาหารโดยจะมีการปล่อย O2 ออกมา
๓.เทอร์มูสมอซีส ( Thermoosmosis ) หรือการดูด O2 ของรากพืช ( rhizosphere ) เป็นผลจากระดับของความกดอากาศที่แตกต่างกันระหว่างภายในรากพืชกับภายนอก ทำให้ O2 ถูกดูดเข้าไปในพืช
๕.วิธีการบำบัดน้ำเสียด้วยจุลินทรีย์และแสงแดดในบ่อ ( Lagoon Treatment ) แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนตามลำดับของการส่งน้ำ ได้แก่ จากบ่อพักน้ำให้ตกตะกอน ( Sedimentation Pond ) บ่อบำบัด ( Oxidation Pond ) และสิ้นสุดที่บ่อพักสุดท้าย ( Polishing Pond ) โดยมีบ่อพักน้ำให้ตกตะกอนก่อนจำนวน ๑ บ่อ บ่อบำบัดจำนวน ๓ บ่อ และบ่อพักน้ำสุดท้ายจำนวน 1 บ่อ ก่อนที่น้ำจะได้รับการบำบัดแล้วเรียบร้อยแล้วจะถูกนำปล่อยกลับสู่ธรรมชาติ โดยจากการทดลองพบว่า การพักน้ำในบ่อจะใช้ระยะเวลาทั้งหมด ๗ วัน เพราะหากนานกว่านั้นจะทำให้เกิดภาวะเน่าเหม็นซ้ำซาก ( nitrification ) ของน้ำจากการย่อยสลายสารอินทรีย์ของจุลินทรีย์
๖.น้ำที่ได้รับการบำบัดจะอยู่ในระดับที่สามารถเลี้ยงปลาในบ่อบำบัดที่สองและสามและบ่อพักสุดท้ายได้ ซึ่งการเลี้ยงปลาจะเป็นประโยชน์ช่วยกินปรสิตและแพลงตอนในน้ำ โดยในขณะนี้ได้ทดลองเลี้ยงปลาหมอเทศ ปลายี่สกเทศ ปลานิล และปลาตะเพียนขาว ในสัดส่วนปลา ๓ ตัวต่อ ๑ ตารางเมตร และเมื่อนำปลามาตรวจสอบ ไม่พบสารอันตรายและสามารถบริโภคหรือกินได้
๗.น้ำที่ดีและน้ำที่เสียสามารถแบ่งแยกได้โดยการวัดระดับค่า BOD ( Biochemical Oxygen Demand / Biological Oxidation Demand ) ซึ่งเป็นปริมาณของ O2 ที่จุลินทรีย์ต้องการใช้ทำปฏิกิริยาการย่อยสลายสารอินทรีย์ อาทิเช่น สารประกอบ Hydrocarbons (น้ำมันเชื้อเพลิง ) แอลกอฮอล์ และน้ำตาล เป็นต้น ดังนั้น น้ำที่มีค่า BOD ต่ำคือ น้ำที่ดี เพราะจุลินทรีย์ต้องการ O2 จำนวนน้อยในการย่อยสลายสารอินทรีย์ สำหรับประเทศไทยกำหนดไว้ว่าค่า BOD จะต้องเท่ากับหรือไม่เกิน ๒๐ มิลลิกรัมต่อลิตร (mg/l)
จากการสำรวจ ปกติน้ำเสียส่วนใหญ่ในประเทศไทยยังไม่ได้รับการบำบัดอย่างถูกวิธี ทั้งจากส่วนของโรงงานอุตสาหกรรมและบ้านเรือนทั่วไป